เครื่องสำอางกับการตั้งครรภ์
มาดูวิธีเลือกเครื่องสำอางสำหรับว่าที่คุณแม่กัน
นพ.พัฒน์ศมา วิจินศาสตร์วิจัย
MClinEmbryol, EFOG-EBCOG,
EFRM-ESHRE/EBCOG.
เครื่องสำอาง หมายถึง วัตถุที่มุ่งหมายสําหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทําด้วยวิธีอื่นใดกับส่วนภายนอกของร่างกายมนุษย์ และให้หมายความรวมถึงการใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปากโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือเปลี่ยนแปลงลักษณะที่ปรากฏ หรือระงับกลิ่นกายหรือปกป้องดูแลส่วนต่าง ๆ นั้น ให้อยู่ในสภาพดี และรวมตลอดทั้งเครื่องประทิ่นต่าง ๆ สําหรับผิวด้วยแต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย (พรบ. เครื่องสำอาง พ.ศ.2558) เรียกได้ว่าผู้หญิงกับเครื่องสำอางนี่แทบจะแยก
จากกันแทบไม่ได้เลยนะครับ เครื่องสำอางนี่มีตั้งแต่สบู่ แชมพู ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก ครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด ครีมกำจัดขน น้ำยาย้อมสีผม น้ำยายืดผม น้ำยาล้างเล็บ เครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าอีกสารพัดสิ่ง ฯลฯ ที่สำคัญคือผิวหนังเป็นอวัยวะหนึี่งที่มีเลือดไปเลี้ยงมาก (ทำให้หมอมีฮอร์โมนแบบทาผิวหนังด้วยไง) ดังนั้นเครื่องสำอางที่มีสารที่เป็นอันตรายก็อาจมีผลต่อทารกในครรภ์ได้ด้วย นอกจากนี้ผิวของสตรีมีครรภ์มีระดับฮอร์โมนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งครรภ์ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังหลายรูปแบบซึ่งอาจส่งผลต่อ skincare routine และการดูแลผิวที่แตกต่างจากผู้หญิงที่ไม่ได้มีครรภ์
การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังระหว่างตั้งครรภ์
จากระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ผิวของคนท้องมีโอกาสเกิดสิว จุดด่างดำ ฝ้า กระ ขึ้นได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีเส้นสีคล้ำ ๆ ตั้งแต่ใต้สะดือถึงหัวหน่าว เรียกว่า linea nigra แปลเป็นไทยว่าเส้นสีดำ นอกจากนี้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องที่ถูกยืดออกอย่างมากตามมดลูกที่โตขึ้นทำให้เกิดผิวหนังแตกลาย และยังพบผื่นคันผิวหนังที่จำเพาะกับการตั้งครรภ์ที่เรียกว่า Pruritic Urticarial Papules and Plaques of Pregnancy (PUPPP) อีกด้วย
สิว acne
ฝ้ืา melasma
Linea nigra
Stretchmark
PUPPP
รูปภาพที่ 1 แสดงความผิดปกติของผิวหนังที่พบได้ขณะตั้งครรภ์
มารู้จักเครื่องสำอางของคุณจากฉลากข้างขวด
ตามกฎหมายกำหนดให้เครื่องสำอางที่วางจำหน่ายได้ในท้องตลาดต้องระบุส่วนประกอบว่าใส่อะไรลงไปบ้าง ไม่ต้องถึงกับระบุว่าอะไรมากน้อย แต่ต้องระบุชนิดจากมากไปน้อยเรียงกันไป ตัวอย่างดังในรูปภาพที่ 2
ส่วนประกอบที่มากที่สุดคือ water หรือน้ำนั่่นเอง
ส่วนประกอบที่น้อยสุดคือ Ethylhexylglycerin
Main Ingredients
Water (Aqua), Galactomyces Ferment Filtrate, Butylene Glycol, Cetyl Ethylhexanoate, Caprylic/Capric Triglyceride, Glycerin, Propanediol, Cetyl Alcohol, Cetearyl Olivate, Pentylene Glycol, 1,2-Hexanediol, Macadamia Integrifolia Seed Oil, Bifida Ferment Lysate, Lactobacillus Ferment, Copper Tripeptide-1, Tripeptide-1, Palmitoyl Tripeptide-1, Palmitoyl Pentapeptide-4, Hexapeptide-11, Hexapeptide-9, Panthenol, Ceramide NP, Ceramide NS, Ceramide AS, Ceramide AP, Ceramide EOP, Sodium Hyaluronate, Arginine, Caprylyl Glycol, Betaine, Lauryl Alcohol, Allantoin, Adenosine, Hydrogenated Lecithin, Soluble Proteoglycan, Cholesterol, Phytosphingosine, Sorbitan Olivate, Cetearyl Alcohol, Sorbitan Stearate, Stearyl Alcohol, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Polyglyceryl-10 Laurate, Myristyl Alcohol, Stearic Acid, Ethylhexylglycerin.
รูปภาพที่ 2 แสดงตัวอย่างฉลากส่วนประกอบครีมบำรุงผิวชนิดหนึ่ง
ตอนนี้เราก็รู้วิธีการดูฉลากเครื่องสำอางกันแล้วนะครับ ทีนี้มาต่อกันว่าจะดูอย่างไร อะไรที่ใช้ได้ อะไรที่ใช้ไม่ได้
สารอะไรในเครื่องสำอางที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง
ต่อไปนี้คือสารที่ควรเลี่ยงเพราะอาจเป็นอันตรายต่อคุณแม่หรือต่อทารกในครรภ์ได้ ถ้าจำอะไรไม่ได้เลย ไม่แน่ใจก็เลี่ยงนะคะง่ายดี 555 คนท้องจะไปย้อมผม ยืดผม ฉีด botox ร้อยไหม filler เลเซอร์ เลสิก ลอกผิวหน้า กรอผิวตัว ฯลฯ ไปทำไมจ้ะ ท้องโย้เยอะแยะแล้วใครเค้าจะมามองความงามของเธอนอกจากสามี จริง ๆ แล้วผิวหน้าคนท้องบางคนก็จะมีออร่า ทีฝรั่งเค้าเรียกว่า ‘pregnancy glow’ อยู่แล้วนะ
สารที่ไม่แนะนำให้ใช้ระหว่างตั้งครรภ์ได้แก่
RETINOL
RETINOL
Vitamin A, retinoic acid, retinyl palmitate, retinaldehyde, adapalene, tretinoin, tazarotene, isotretinoin.
Toluene
Toluene
methylbenzene, toluol and antisal 1a
ตัวแรกคือ retinol หรือพวกอนุพันธ์ของวิตามิน A นั่นเอง กลุ่มนี้มักจะอยู่ในพวกครีมลดริ้วรอย หรือยารักษาสิวแบบที่ทาก่อนนอน สารในกลุ่ม retinol อาจทำให้มีความผิดปกติแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ไ้ด้หลายระบบ รวมทั้งทำให้ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ด้วย ควรหลีกเลี่ยง
Toluene เป็นสารทำละลายที่ดี ที่พบบ่อย ๆ ก็คือในลูกเหม็นดับกลิ่นและน้ำยาทาเล็บ toluene ทำให้ทารกโตช้าในครรภ์ น้ำหนักแรกคลอดน้อย และอาจมีความผิดปกติในพัฒนาการหลังคลอดอีกด้วย
Salicylic acid
Salicylic acid
BHA, 3-hydroxypropionic acid, trethocanic acid or tropic acid
ตัวถัดมาที่ควรเลี่ยงคือเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบเป็น salicylic acid โดยเฉพาะที่ความเข้มข้นมากกว่า 2% เนื่องจากที่ความเข้นข้นสูงอาจทำให้ทารกมีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือดและการทำงานของระบบหลอดเลือดและหัวใจได้
Aluminum chlorohydrate.
Aluminum chloride hexahydrate
Aluminum chloride hexahydrate
ตัวนี้ใช้ในพวกเครื่องสำอางลดกลิ่นเต่าต่าง ๆ ลดเหงื่อ สารนี้อาจทำให้คุณแม่น้ำหนักขึ้นน้อย ทารกโตช้าในครรภ์และอาจพบความผิดปกติของทารกในครรภ์โดยเฉพาะระบบกระดูก
DEA
DEA
Diethanolamine, oleamide DEA, lauramide DEA or cocamide DEA
DEA เป็นสารสกัดที่ได้มาจากปิโตรเลียม ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลื่น มักใช้เป็นส่วนประกอบของสบู่ แชมพู สเปรย์ผม แต่จากการศึกษาพบว่า DEA มีผลต่อการพัฒนาของสมองของทารกในครรภ์และอาจเพิ่่มความเสี่ยงต่อการแท้งได้
Formaldehyde
Formaldehyde
Quaternium-15, dimethyl-dimethyl (DMDM), hydantoin, imidazolidinyl urea, diazolidinyl urea, sodium hydroxymethylglycinate, and 2-bromo-2-nitropropane-1,3-diol (bromopol)
Formaldehyde หรือ formalin นั่นเอง เป็นสารทำละลายที่ดี มักเป็นส่วนประกอบของน้ำยาทาเล็บ น้ำยายืดผม จากการศึกษาพบว่า formaldehyde สัมพันธ์กับมะเร็ง ความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจและระบบประสาท
Hydroquinone
Hydroquinone
idrochinone and quinol/1-4 dihydroxy benzene/1-4 hydroxy benzene
็ัHydroquinone เป็นสารต้องห้ามสำหรับเครื่องสำอางในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยปกติจะอยู่ในยารักษาฝ้าซึ่งมีผลข้างเคียงมาก ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนัง hydroquinone ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้มากและอาจทำให้ทารกในครรภ์มีความผิดปกติได้
Parabens
Parabens
propyl, butyl, isopropyl, isobutyl and methyl parabens
Parabens เป็นสารกันบูดในเครื่องสำอาง ปัจจุบันเราทราบข้อเสียของ parabens มากแล้วจะเห็นได้ว่าเครื่องสำอางหลายตัวที่ขึ้นในคำโฆษณาเลยว่า paraben-free โดยพบว่าสตรีมีครรภ์ที่ได้รับ paraben จะสัมพันธ์กับการแท้ง ทารกโตช้าในครรภ์และทารกน้ำหนักแรกเกิดน้อย
diethyl and dibutyl
Phthalates
Phthalates
พาทาเลตเป็นตัวทำละลายที่ใช้ในน้ำหอมและสารกำจัดศัตรูพืช ในเครื่องสำอางอาจถูกเขียนว่า ‘FRAGRANCE’ เฉย ๆ พบว่าพาทาเลตทำให้ทารกน้ำหนักตัวน้อย และมีผลเสียต่อพัฒนาการ เพ่ิ่มความเสี่ยงของออทิสติกและ ADHD (ไฮเปอร์)
acetyl mercaptan, mercaptoacetate, mercaptoacetic acid or thiovanic acid
Thioglycolic
acid
Thioglycolic
acid
เป็นสารที่ใส่ในครีมกำจัดขน (แบบที่ทาทิ้งไว้แล้วเอาพายป้ายครีมออกแล้วขนมันออกไปอะ) พบว่า thioglycolic acid สัมพันธ์กับน้ำหนักทารกแรกเกิดน้อย
แล้วตัวไหนที่ใช้ไ้ด้บ้างหละทีนี้
แน่นอนครับมันต้องมีตัวที่เราใช้ได้บ้างแหละนะ สารที่ใช้ไ้ด้อย่างปลอดภัยช่วงตั้งครรภ์ ได้แก่
Glycolic acid
Glycolic acid
หรือที่เราอาจคุ้นเคยกว่าในชื่อ AHA เป็นกรดผลไม้ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วรวมทั้งจุดด่างดำออก AHA ดูดซึมเข้ากระแสเลือดน้อยมาก จึงปลอดภัย ใช้ได้
AZELAIC
acid
AZELAIC
acid
ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการอักเสบของผิวหนังและลดโอกาสการเกิดสิว
Benzyl peroxide
Benzyl peroxide
ส่วนใหญ่เป็นองค์ประกอบของยารักษาสิวพวกที่หมอให้ทาก่อนล้างหน้าหนะ เช่น Panoxyl, Benzac เป็นต้น ทำงานโดยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่รูขุมขนทำให้สิวอักเสบลดลง ตัวนี้แทบไม่ดูดซึมเข้ากระแสเลือดเลยจ้ะ แต่เวลาใช้ต้องระวังผ้าผ่อน ปลอกหมอนอะไรพวกนี้นะ สีมันตกได้เลย
ascorbic
acid
ascorbic
acid
หรือวิตามินซีนั่นเอง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการสร้างเม็ดสี ช่วยกรองรังสี UV และยังทำงานเป็นสารกันบูดตามธรรมชาติอีกด้วย
lactic
acid
lactic
acid
ช่วยผลัดเซลล์ผิวใหม่ รักษาความชุ่มช่ื้นของผิวหนัง
niacinamide
niacinamide
หรือ Vitamin B3 ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขาวขึ้นและให้ความชุ่มชื้น
mandalic acid
mandalic acid
มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ และช่วยให้ริ้วรอยบาง ๆ จางลง
kojic
acid
kojic
acid
ยังยั้งการสร้างเม็ดสีที่ผิวหน้ัง ยังยั้งแบคทีเรียและต้านอนุมูลอิสระ
คำแนะนำในการดูแลผิวในสตรีมีครรภ์